Explode Effect
จากเอฟเฟ็กต์ทั้ง 3 ตัวที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นเอฟเฟ็กต์ที่ไม่ค่อยดึงดูดความสนใจของคุณผู้อ่าน ได้มากนัก แต่กับเอฟเฟ็กต์ Explode นี้ น่าจะดึงดูดความสนใจคุณผู้อ่านสำหรับการนำไปใช้งานได้ดีทีเดียว เพราะเป็นเอฟเฟ็กต์ที่ทำให้วัตถุค่อยๆ แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งเราสามารถปรับแต่งได้ทั้งทิศทางการแตกกระจาย องศาการหมุนของวัตถุที่กระจายออกไป หรือขนาดของวัตถุ เป็นต้น
 |
| รูปที่ 5 รายละเอียดต่างๆ ภายในหน้าต่าง Explode |
การใส่เอฟเฟ็กต์นี้ลงในวัตถุ ก็เหมือนกับการใส่เอฟเฟ็กต์ที่ผ่านๆ มา นั่นคือ คลิ้กขวาที่วัตถุที่ต้องการจะใส่เอฟเฟ็กต์ Explode แล้วเลือก Timeline Effects
ภายในส่วนปรับแต่งเอฟเฟ็กต์ Explode ก็จะประกอบไปด้วยการปรับแต่งค่าต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. Effect Duration เป็นการกำหนดจำนวนเฟรมที่จะใช้ในการแสดงผลเอฟเฟ็กต์นี้
2. Direction of Explosion เป็นการกำหนดทิศทางการแตกกระจายสำหรับชิ้นส่วนต่างๆ ของวัตถุ โดยปกติแล้วจะกำหนดให้แตกกระจายไปทางด้านบน
3. Arc Size เป็นการกำหนดระยะทางและความสูงของการแตกกระจาย การกำหนดค่า X จะเป็นการกำหนดระยะทางของการแตกกระจาย ส่วนการกำหนดค่า Y จะเป็นการกำหนดความสูงของชิ้นส่วนที่จะพุ่งขึ้นไปสำหรับการแตกก ระจาย
4. Rotate Fragments เป็นการกำหนดองศาในการหมุนของวัตถุในขณะที่ยังลอยตัวอยู่กลางอ ากาศ
5. Change Fragments Size เป็นการกำหนดขนาดชิ้นส่วนของวัตถุที่แตกกระจายออกไป
6. Final Alpha เป็นการกำหนดค่าความโปร่งใสสำหรับชิ้นส่วนของวัตถุที่แตกกระจา ยออกไปจนสุดแล้ว
 |
| รูปที่ 6 ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากเอฟเฟ็กต์ Explode |
เมื่อปรับค่าต่างๆ จนพอใจแล้ว ก็ลองกดปุ่ม Update Preview เพื่อดูผลลัพธ์ของเอฟเฟ็กต์นี้ได้ดังรูปที่ 6 (สำหรับเครื่องของใครที่ค่อนข้างช้า อาจจะใช้เวลาในการพรีวิวนานซักหน่อย) ถ้าพอใจผลลัพธ์ที่ออกมา ก็กดปุ่ม OK ได้เลย
- Transform Effect
เอฟเฟ็กต์นี้เป็นเอฟเฟ็กต์ที่รวมเอาความสามารถทั้งหมดของ Tweening Motion โดยเราสามารถกำหนดให้วัตถุเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่กำหนด พร้อมๆ ไปกับการเปลี่ยนสีของวัตถุ หรือหมุนไปด้วยก็ได้ โดยวัตถุที่จะนำมาใส่เอฟเฟ็กต์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนำไปเก็บเป็ นซิมโบลก่อนแต่อย่างใด
 |
| รูปที่ 7 รายละเอียดต่างๆ ภายในหน้าต่าง Transform |
ก่อนจะใส่เอฟเฟ็กต์ อย่าลืมเตรียมเรียกวัตถุที่ต้องการจะนำมาใส่เอฟเฟ็กต์นี้ ต่อจากนั้นให้คลิ้กขวาที่วัตถุที่จะใส่เอฟเฟ็กต์ เข้าไปในส่วน Transform แล้วเลือก Timeline Effects
ภายในส่วนปรับแต่งเอฟเฟ็กต์ Transform ของหน้าต่าง Transform ค่อนข้างที่จะมีค่าต่างๆ ให้ปรับแต่งมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ต่างกับค่าที่มีให้เราปรับใน Tweening Motion ซึ่งประกอบไปด้วย
1. Effect Duration เป็นการกำหนดจำนวนเฟรมที่จะใช้ในการแสดงผลเอฟเฟ็กต์นี้
2. Change Position/Move to Position เป็นการกำหนดรูปแบบการ Transform ถ้าเลือกเป็น Chang Position ค่าที่เราระบุลงไปในช่อง X และ Y จะหมายถึงค่าที่จะนำไปบวกกับค่าตำแหน่งปัจจุบันของวัตถุ เพื่อให้ตำแหน่งเปลี่ยนไป แต่ถ้าเลือกเป็น Move to Position จะเป็นค่าที่เราระบุลงไปในช่อง X และ Y ซึ่งหมายถึงตำแหน่งที่วัตถุจะต้องเคลื่อนที่ไป
3. Scale เป็นการกำหนดขนาดของวัตถุที่ปลายทาง ว่าจะให้มีขนาดเล็กลงหรือใหญ่ขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์จากขนาดปกติ
4. Rotate เป็นการกำหนดว่าจะให้วัตถุหมุนไปกี่องศาในระหว่างการ Transform
5. Spin เป็นการกำหนดว่าจะให้วัตถุหมุนในระหว่างการ Transform กี่รอบ โดยเราสามารถกำหนดทิศทางการหมุนได้ว่าจะให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา หรือหมุนตามเข็มนาฬิกา ซึ่งกำหนดได้ที่ช่อง Times
6. Change Color เป็นการกำหนดให้วัตถุเปลี่ยนสีในขณะที่กำลัง Transform ไปด้วย ถ้าเราเลือกตัวเลือกนี้ เราจะต้องกำหนดสีของวัตถุที่จะให้เปลี่ยนไปในช่อง Color ด้วย
7. Final Alpha เป็นการกำหนดความโปร่งใสของวัตถุที่ปลายทางว่าจะให้มีความโปร่ งใสกี่เปอร์เซ็นต์
8. Motion Erase เป็นการกำหนดลักษณะการเคลื่อนที่ ว่าจะให้เริ่มจากเคลื่อนที่ช้าแล้วค่อยๆ เร็วขึ้น (Slow At Start) หรือจะให้เริ่มจากเคลื่อนที่เร็วแล้วค่อยๆ ช้าลง (Slow At End)
หลังจากที่ปรับแต่งเรียบร้อยแล้ว ให้ลองกดปุ่ม Update Preview เพื่อทดลองดูผลลัพธ์ที่ได้ ถ้าพอใจในเอฟเฟ็กต์ที่ได้ปรับแต่งไว้แล้ว ก็กดปุ่ม OK
 |
| รูปที่ 8 รายละเอียดต่างๆ ภายในหน้าต่าง Transition |
- Transition Effect
เอฟเฟ็กต์นี้เป็นเอฟเฟ็กต์สำหรับทำให้วัตถุค่อยๆ ปรากฏขึ้น หรือ ค่อยๆ หายไป การใส่เอฟเฟ็กต์นี้ลงในวัตถุ ก็เพียงคลิ้กขวาที่วัตถุที่ต้องการใส่เอฟเฟ็กต์ Transition แล้วเลือก Timeline Effects
ภายในหน้าต่าง Transition จะประกอบไปด้วยส่วนปรับแต่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. Effect Duration เป็นการกำหนดจำนวนเฟรมที่จะใช้แสดงผลเอฟเฟ็กต์นี้
2. Direction เป็นการกำหนดว่าจะให้วัตถุปรากฏ (In) หรือหายไป (Out) นอกจากนั้นเรายังเลือกกำหนดรูปแบบการ Transition ได้ ถ้าเลือกเป็น Fade การปรากฏหรือหายไปของวัตถุจะมีการเฟดด้วย และถ้าเลือก Wipe จะทำให้วัตถุค่อยๆ ปรากฏหรือหายไปทีละส่วน
3. Motion Erase เป็นการกำหนดลักษณะของการ Transition ว่าจะให้เริ่มจากช้าแล้วค่อยๆ เร็วขึ้น (Slow At Start) หรือจะให้เริ่มจากเร็วแล้วค่อยๆ ช้าลง (Slow At End)
 |
| รูปที่ 9 ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากเอฟเฟ็กต์ Transition |
เมื่อปรับแต่งเอฟเฟ็กต์จนพอใจแล้ว ให้ทำการทดสอบดูผลลัพธ์ ด้วยการกดปุ่ม Update Preview เหมือนเดิม ดังรูปที่ 9 ถ้าพอใจกับเอฟเฟ็กต์ที่ได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็ให้กดปุ่ม OK ได้เลย
การแก้ไขและลบเอฟเฟ็กต์
หลังจากที่เราได้ใส่เอฟเฟ็กต์ลงในวัตถุ หากเราเกิดเปลี่ยนใจ อยากจะปรับแต่งเอฟเฟ็กต์อีกหน่อย ก็สามารถทำได้โดย คลิ้กขวาที่วัตถุที่ได้ใส่เอฟเฟ็กต์ลงไปแล้ว ต่อจากนั้นให้เลือก Timeline Effect
สำหรับการลบเอฟเฟ็กต์นั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่คลิ้กขวาที่วัตถุที่ได้ใส่เอฟเฟ็กต์ไปแล้ว แล้วเลือก Timeline Effect
ข้อสังเกตที่หลายๆ คนน่าจะเจอในระหว่างลองเล่น Timeline Effect ก็คือ เรื่องความช้าของระบบ Timeline Effect ไม่ว่าจะเป็นตอนเลือกเอฟเฟ็กต์ การพรีวิว หรือตอนใส่เอฟเฟ็กต์ลงในวัตถุ ถ้าหากเครื่องใครที่ช้าหน่อย ก็จะเห็นข้อสังเกตนี้ได้ชัดเจน แต่เมื่อเทียบกับเวลาที่จะต้องเสียไปกับการลงมือสร้างเอฟเฟ็กต์ เหล่านี้ด้วยตัวเอง ก็ถือว่า Timeline Effect นี้ก็ให้ความสะดวกได้ดีในระดับหนึ่ง แถมยังใช้งานได้ไม่ยากอีกด้วยครับ
